ฤดู(ของ)ฝน

ฤดูไหน…ฤดูไหน…ก็ฤดู(ของ)ฝน

Because Of You January 23, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 8:11 am
I will not make the same
mistakes that you didI will not let myself
cause my heart
so much misery

I will not break
the way you did
you fell so hard

I’ve learned the hard way
to never let it get that far

Because of you,
I never stray too
far from the sidewalk

Because of you
I learned to play
on the safe side
so I don’t get hurt

Because of you
I find it hard to trust
not only me, but everyone around me

Because of you
I am afraid….

I lose my way
and it’s not to long before you
point it out

I cannot cry
because I know that’s weakness
in your eyes

I’m forced to
fake a smile, a
laugh, every day
of my life

My heart can’t possibly break when
it wasn’t even whole to start with

Because of you
I never stray too
far from the sidewalk

[Because Of You lyrics on http://www.metrolyrics.com%5D

Because of you
I learned to play
on the safe side
so I don’t get hurt

Because of you
I find it hard to trust
not only me, but
everyone around me

Because of you
I am afraid

I watched you die
I heard you cry
every night in your sleep

I was so young
you should have known better
than to lean on me

You never thought
of anyone else you just saw
your pain

And now I cry in
the middle of the night
for the same damn thing

Because of you
I never stray too far from the
sidewalk

Because of you, I
learnt to play on the safe side
so I don’t get hurt

Because of you
I try my hardest just to
forget everything

Because of you
I don’t know
how to let
anyone else in

Because of you
I’m ashamed of my life
because it’s empty

Because of you I am afraid
….Because Of you….

 

21 วันแห่งการเรียนรู้ January 21, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 10:09 am

21 อีกแล้ว ดีใจ

     มันเริ่มขึ้นเมื่อ 6 เดือนก่อน ฉันหลงเชื่อว่าวันที่ 21 เป็นวันพิเศษ มันเป็นวันที่มีบางสิ่งเริ่มต้น บางอย่างห่างหาย และที่สำคัญมันทำให้ฉันมีความสุข

     ฉัน ยิ้ม หัวเราะ คิดถึง เศร้า ร้องไห้ น้อยใจ เขินอาย รอคอย หลายๆอารมณ์หมุนเวียนมาในทุกๆวันที่21 ฉันเรียกวันที่ 21 ว่า”วันแห่งการเรียนรู้” จริงๆมันอาจเป็นวันไหนก็ได้ของชีวิตเรา เพียงแต่กับฉัน เริ่มคิดถึงความสำคัญของมันได้ในวันนั้น วันที่21

     21 แรก ของฉันเริ่มต้นจากการเปิด และปรับเปลี่ยนความคิด ยังไม่ทันตั้งตัว ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในชีวิต บางอย่างที่ทำให้ยิ้มสุขใจได้ บางอย่างที่สอนให้รู้จักเรียนรู้และจดจำอดีตแต่ไม่ใช่ยึดติดกับอดีต บางอย่างนั้นช่วยแนะนำและเดินเคียงข้างกันนับตั้งแต่วันนั้น บางอย่างที่ทำให้ฉันเรียนรู้ และอยากเรียนรู้ในทุกๆวันที่ 21

    วันนี้ 21 อีกแล้ว ฉันมีบางสิ่งที่เรียนรู้ได้ในวันนี้ มีอยู่หนึ่งประโยคที่หวนคิดถึง

     “ถ้าไม่ทำความเข้าใจ ก็ต้องทำใจ”

     แต่บางสิ่งกระซิบบอกฉันว่า เค้าอยากให้ฉันทำความเข้าใจไม่ใช่ทำใจ ในตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้น ถ้าเราทำความเข้าใจ นั้นหมายความว่าเราไม่ทุกข์ ถ้าต้องทำใจหมายความว่าฉันผิดหวังเลยต้องทำใจ แต่เอาเข้าจริง ฉันกลับมองอีกอย่างเพราะฉันอาจเป็นคนโลภทางความคิด เพราะฉันว่ามันต้องมาคู่กัน เหมือนมันเอื้อซึ่งกันและกัน

     อย่างเช่น

     ชายหญิงหนึ่งคู่ คบหากันมา แล้ววันนี้เป็นวันพิเศษ วันครบรอบวันสำคัญ หญิงสาวรอคอย วันแสนพิเศษแห่งความทรงจำ มันต้องหอมหวาน และแสนดีที่สุด แล้วสุดท้ายมันกลายเป็นวันแสนจะธรรมดายิ่งกว่าวันไหน เพราะฝ่ายชายติดงาน มีธุระยุ่งมากมาย ตอนเย็นต้องไปกินเลี้ยงกับที่ทำงานต่อ นั่นแหละ เป็นคุณจะ ทำความเข้าใจ หรือทำใจ

     ในมุมของฉันหญิงสาวต้องทำความเข้าใจ เหตุผลของเรื่องงานยากจะเปลี่ยนแปลง เป็นความรับผิดชอบ ในชีวิตที่มนุษย์พึงกระทำ แล้วในขณะเดียวกันหญิงสาวต้องทำใจ เพราะแน่นอนเธอผิดหวัง สุดท้ายเธอต้องทั้งเข้าใจและทำใจไปพร้อมๆกัน

     หลายคู่ในความคิดฉันที่อาจเกิดปัญหาเพราะ ฝ่ายชายมองเห็นแต่ประโยคที่ว่า ต้องทำความเข้าใจ และฝ่ายหญิงเองก็มองเห็นแต่ว่า ต้องทำใจ เหมือนที่เราๆเคยได้ยินว่า ผู้ชายมักจะลืม ลืมมันไปซะทุกเรื่อง แล้วผู้หญิงก็ช่างจำ จดจำมันไปซะทุกเรื่องเช่นกัน นั่นแหละเลยเป็นปัญหา

     ถ้าฉันให้การทำความเข้าใจเป็น เหตุผล แล้วการทำใจเป็นอารมณ์ คราวนี้ถ้าคุณนั่งอยู่บนเรือกำลังจะข้ามแม่น้ำ คุณจะพายเรือข้ามไปด้วยเหตุผลหรืออารมณ์  ถ้าพายด้วยเหตุผล คุณอาจข้ามไปได้แต่คุณไม่รู้เลยว่าทุกฝีพายของคุณที่จ้วงพายทำให้น้ำขุ่นมัว หรือถ้าคุรเลือกที่จะพายข้ามไปด้วยอารมณ์ เรือคุณมันคงโคลงเคลงไม่รู้ว่าจะล่มลงเมื่อไหร่

ป.ล.วันหลังมาต่อ วันนี้อารมณ์ขุ่นมัว มิสามารถต่อได้ เศร้าง่ะ กรำ

 

อีกก้าวของหญิงสาวสติแตก January 15, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 3:39 am

     เมื่อกี้ฉันสติแตก

     30นาทีก่อนหน้า ฉันเดินวนไปวนมาอยู่ชั้นหนึ่งหน้าลิฟของออฟฟิต ฉันไม่ได้รอใคร ไม่ได้รีบร้อน แต่ฉันแค่ครุ่นคิด เหมือนกำลังพยายามดับกองไฟด้วยน้ำที่มีอยู่ในมือแค่น้อยนิด

     “พี่สอนฝนกี่รอบแล้วเนี่ยะ” สิ้นประโยคของหญิงสาวผู้เป็นหัวหน้า เสียงในแผนกที่ดังเหมือนช่วงสิ้นค้าลดราคาตอนสิ้นปีก็เงียบสนิท

     “ฝนเข้าใจที่พี่สอน แต่สูตรที่พี่ให้ทำมันไม่มี” ฉันเอ่ยค้านความคิดของหัวหน้า

     “ไม่มีทำไมไม่หาล่ะ”

     “เมื่อวานพี่ไม่ได้เข้าออฟฟิต”

     “ทำไมเนี่ยะ สอนกี่ทีแล้ว ทำไมไม่จด ก็เนี่ยะ ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้” กระดาษหนึ่งปึกที่ฉันเฝ้าเพียรทำมาเป็นอาทิตย์ถูกโยนลงบนโต๊ะ แล้วด้วยแรงกระแทกกระดาษปึกนั้นก็กระจายไปทั่วโต๊ะและหล่นมากองอยู่ที่พื้น

     “พี่คะไม่ใช่ว่าฝนทำไม่เป็น หรือไม่คิดจะทำ แต่ที่ให้ทำมันไม่มีและเมื่อวานพี่ก็ไม่ได้มา” ฉันรู้ตัวว่าเป็นเด็ก แต่เด็กมีความคิดได้ มีความรู้สึก และที่สำคัญ ลูกน้องไม่ใช่ถังขยะ

     แล้วฉันก็สติแตก

     ประตูห้องถูกปิดลง ประตูลิฟเปิดออก ฉันก้าวเข้าไป ยังไม่รู้จะเดินไปไหน แค่คิดว่าการเป็นผู้ใหญ่นอกจากต้องมีความรับผิดชอบแล้ว มันควรจะต้องทำยังไงอีก ที่สำคัญฉันควรจะ นิ่ง และใจเย็นๆ ฉันเดินวนไปวนมาเพราะห้างยังไม่เปิด ในใจคิดแต่ว่ากลับบ้านไปเลยดีมั๊ย เพราะยังไงก็ต้องออกจากงานตอนสิ้นเดือนอยู่แล้ว แต่อีกใจก็คิดว่าจะอีกแค่วันอาทิตย์เดียว วันเดียว หรือเหลือแค่ชั่วโมงเดียว งานก็คืองาน ความรับผิดชอบยังคงอยู่กับตัวเราเสมอ

     และแล้วก็เดินวนต่อ ประตูลิฟก็เปิดขึ้นอีกครั้ง ฉันก้าวออกมาแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ กระดาษที่กระจายถูกเก็บรวมไว้ที่โต๊ะเช่นเดิม ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนเก็บ เลยไม่รู้จะเอ่ยคำขอบคุณกับใคร

     แต่อารมณ์ฉันมันก็ยังไม่พร้อมจะเริ่มต้นทำงานได้ต่ออยู่ดี ฉันเดินไปที่ห้องครัว นั่งกินข้าว กิน กิน กิน พยายามจะทำอะไรให้อารมณ์ตัวเองมันดีขึ้น นิ่งๆ แล้วก็กลับเข้ามาทำงานต่อ

     ฉันเริ่มเอากระดาษ(สูตรการผลิต)เจ้าปัญหา ที่มันมีไม่ครบถ้วนอย่างที่หัวหน้าฉันต้องการ มาจัดเรียงใหม่ พี่คนนึงในแผนกเดินมาลูบหัว ไม่ได้พูดอะไร และฉันก็ไม่ได้เอ่ยอะไรกลับไปเช่นกัน

     จริงๆฉันอยากจากที่นี่ไปแบบสวยงาม ความทรงจำที่ดีสำคัญกับฉันเสมอ แต่วันนี้ฉันรู้สึก แม้ฉันจะเป็นลูกน้อง ฉันก็รู้สึก

     ฉันได้อ่านเรื่องราวของพี่ชายคนนึงเขาเขียนถึงหญิงสาวที่เจอในร้านกาแฟ หญิงสาวสนทนากับชายคนรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่พักใหญ่ แล้วเธอก็ถูกบอกเลิกเพราะเธอทำบางอย่าที่ผิดพลาดไป พี่ชายว่าคนเราไม่ใช่ว่าจะต้องมองหาคนที่ไม่ทำผิดแต่น่าจะมองหาคนที่ เข้าใจในความผิดของตนเองและความผิดของคนอื่นมากกว่า ซึ่งฉันเองก็เห็นด้วย

     ฉันยังจำได้ว่าฉันเม้นให้พี่ชายว่า “คนเราเกิดมามีใครบ้างไม่เคยทำผิด” ประโยคนั้นฉันได้ยินบ่อยๆ แล้ววันนี้ฉันก็นึกถึงประโยคนั้นอีกครั้ง

     พี่ค่ะ วันนี้ฝนเพิ่งมองเห็นรอยเท้าของตัวเองบนพื้นดินที่ล่วงผ่าน รอยเท้าที่พี่พยายามชี้บอกให้ย้อนมองเสมอ ก่อนที่เราจะตัดสินใจก้าวเดินไปทางไหน ยามที่เราก้าวเราอาจแค่ต้องการเดินผ่านทางนั้นไปให้ได้ แต่หลายต่อหลายครั้งที่เราไม่เคยรู้เลยว่าทางที่เราเดินไปนั้น เท้าเราเหยียบย้ำอะไรและหลงเหลือล่องรอยอะไรเอาไว้ให้คนต่อไปพบเห็น

     บางสิ่งที่พี่บอก บางอย่างที่ฝนเพิ่งเข้าใจ ขอบคุณนะคะ