ฤดู(ของ)ฝน

ฤดูไหน…ฤดูไหน…ก็ฤดู(ของ)ฝน

เมื่อวันนี้ฉันเป็นน้ำแล้วเธอเป็นแก้ว October 31, 2007

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 8:14 am
Tags:

     สภาวะอ่อนแอทางจิตใจ ฉันว่ามันเกิดขึ้นได้กับทุกๆคนเป็นเรื่องปกติ สาเหตุอาจเกิดจากปัญหารุมเร้ารอบด้าน ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว ความรัก เพื่อนฝูง อีกเพียบถ้าจะให้นึกถึง แล้วแต่ละคนก็มีวิธีการที่แตกต่างและหลากหลายในการประคับประคองจิตใจตัวเองให้เข้มแข็ง

     สำหรับฉัน แค่มีคนที่เข้าใจคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆกัน มันก็ทำให้ฉันมีแรงใจเพิ่มขึ้นได้เป็นกองแล้วค่ะ

     แต่มันจะโหดร้ายขนาดไหน ถ้าคนที่เรารัก เขากลับรู้สึกว่า โดดเดี่ยว เดียวดาย สิ้นหวัง ท้อแท้ ไม่มีใคร ทั้งๆที่ก็มีเราอยู่ข้างๆ

     เป็นฉันคงเจ็บปวดที่สุด(แต่)

     มันก็เหมือนกับเรากำลังเทน้ำใส่แก้ว เติมเท่าไรก็ไม่เต็ม มันอาจไม่ใช่ว่า น้ำที่เทมันน้อยเกินหรือแก้วที่ใส่มันใหญ่ไป แต่บางครั้งมันอาจเป็นเพราะ แก้วใบนั้นมันคว่ำอยู่

     เราไม่สามารถเทน้ำใส่แก้วที่มันคว่ำอยู่ให้เต็มได้หรอก

     คราวนี้ก็มีวิธีคิดอยู่ว่า ถ้าเรารู้แล้วว่าแก้วมันคว่ำ เราจะทำยังไง แต่เจ้าแก้วใบนี้ก็ช่างเป็นแก้วที่แสนพิเศษ เพราะเราไม่สามารถใช้มือของเราหงายมันขึ้นมาเองได้ มันจะหงายได้ด้วยตัวของตัวเอง

     บางคนพอรู้แบบนี้แล้ว ก็เริ่มมองหาแก้วใบใหม่ แก้วที่สามารถเติมเต็มได้ โดยที่น้ำไม่เอ่อล้น จนตัวเองต้องเปียก ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้มองว่าเขาเหล่านั้นถูกหรือผิด มันขึ้นอยู่ที่ความพอใจ ความเข้าใจ และการตัดสินใจมากกว่า

     และก็ยังมีอีกหลายคนที่รู้ว่าแก้วมันคว่ำอยู่ แต่ก็ยังยืนยันที่จะเทน้ำลงไป คงเพราะหวังว่าสักวัน แก้วอาจหงายขึ้นเพื่อรับน้ำจากเขาหรือเธอ คนประเภทหลังนี้ฉันขอยกย่อง

     เป็นธรรมดาที่เวลาคนที่ท้อแท้ มักคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว มันอยู่ที่เมื่อเราเห็น เรารับรู้ว่าเขาเสียใจ มีปัญหา แล้วเราจะทำยังไง ถ้าเรามัวแต่มานั่งคิดว่า ฉันเป็นน้ำที่เติมให้เขาไม่เต็ม คิดแบบนี้ยังไงมันก็ไม่เต็มแน่ๆ แทนที่จะคิดถึงความรู้สึกตัวเรา ฉันว่าควรจะคิดถึงความรู้สึกของเขาก่อนดีกว่า

     เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันเลือกที่จะเทน้ำลงไปเช่นเดิม ฉันอาจไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าแก้วจะหงาย เพียงแต่ฉันไม่ต้องการให้เขารู้สึกว่าโดดเดี่ยวแบบนั้น เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังมีฉันอีกคน ฉันก็จะอยู่คอยเติมน้ำใส่แก้วใบเดิม ใบนี้ ไม่ว่ามันจะคว่ำหรือหงาย…

     ปัจจุบันและอนาคตของฉันจะมีเขาอยู่ด้วยเสมอ

 

บนบ่าของคุณมีแมลงปอไหม… October 19, 2007

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 9:19 am
Tags:

ได้อ่านเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้วจากพี่สาวใจดีคนนึง

วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกันเรื่อง ความเสียสละ รักษา รัก ทำให้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

เลยเอามาแปะไว้ให้เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะจ๊ะ

อาจไม่ซึ้งกินใจอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เราได้หวนคิด

…คุณอยากให้บนบ่าของคุณมีแมลงปอไหม…

ลองมองสิ่งรอบตัวดูให้ละเอียดมีเมืองเล็กๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่ง มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมาก
ทุกวันพวกเขาจะพากันไป ดู ชม พระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด
และไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดตอนโพล้เพล้
ทุกคนที่เคยพวกเขาพบเจอจะมองด้วยสายตาอิจฉาในความรักของคนคู่นี้เสมอ..
แต่แล้ววันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น
หญิงสาวผู้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
เธอนอนเงียบๆ อยู่บนเตียงของโรงพยาบาล
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า เธอก็ยังคงไม่ฟื้นคืนมา

ตอนกลางวัน
ชายหนุ่มจะมาเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง
ร้องเรียกคนรักของเขาเสมอ ทั้งๆ ที่เธอไม่ตอบสนองใดๆ เลย

ตกกลางคืน
ชายหนุ่มจะไปสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์นอกเมือง
เขาร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว

ผ่านไป 1 เดือน
หญิงสาวยังคงหลับใหลไม่ฟื้นเหมือนเดิม
ส่วนชายหนุ่มก็ดูจะซูบเซียวขึ้นทุกวัน
แต่ก็ยังคงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอไม่หยุด

แต่แล้ววันหนึ่ง
พระผู้เจ้าก็เกิดเห็นใจในรักของชายหนุ่ม
และตกลงที่จะ(ประทาน)พรให้แก่เข า
พระผู้เป็นเจ้าได้ถามชายหนุ่มว่า
“เจ้ายอมที่จะแลกพรนี้ด้วยชีวิตของเจ้าไหม”
ชายหนุ่มตอบโดยไม่ลังเลว่า “ ผมยอมครับ”
พระผู้เป็นเจ้าพูดว่า “งั้นดีฉันจะให้คนรักของเจ้าฟื้นขึ้นมา
แต่เจ้าต้องแลกกับการกลายเป็นแมลงปอเป็นเวลา 3 ปี เจ้าจะตกลงยอมไหม”
ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น แต่ก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิม “ผมยอมครับ”

ฟ้าสางแล้ว
ชายหนุ่มได้กลายเป็นแมลงปอสวยงามตัวหนึ่ง
เขาบอกลาพระผู้เป็นเจ้าแล้วรีบบินกลับไปที่โรงพยาบาล
หญิงสาวฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ
มีนายแพทย์หนุ่มยืนอยู่ข้างๆ เธอ คุยเรื่องอะไรกันสักอย่างหนึ่ง
แต่ช่างเสียดายที่เขาไม่สามารถที่จะได้ยิน..

หลายวันผ่านไป
หญิงสาวแข็งแรงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่เธอดูไม่มีความสุขเลย เธอออกตระเวนหาข่าวคราวของชายหนุ่ม
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่มหายไปอยู่ที่ไหน
หญิงสาวยังไม่ละความพยายามที่จะตามหาชายคนรักของเธอ
ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในร่างของเจ้าแมลงปอได้(แต่)บินวนเวียนอยู่รอบตัวหญิงสาวไม่ห่าง
(ทว่า)เขาไม่สามารถที่ส่งเสียง ไม่สามารถโอบกอด(เธอ)
เขาทำได้แค่เพียงเฝ้ามองดูหญิงสาวไม่ให้คาดสายตาเท่านั้น

ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้นไม้ใหญ่
เจ้าแมลงปอจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้บินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาว
เขาอยากใช้ปีกของเขาลูบใบหน้าของหญิงสาว
อยากใช้ปากเล็กๆ จูบที่หน้าผาก
แต่อย่างไรก็ดีร่างเล็กบอบบางในคราบของแมลงปอ
ก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวได้

แค่พริบตา ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือน
เจ้าแมลงปอรีบบินกลับมาหาคนรักของเขา
เพื่อจะพบว่าร่างอันคุ้นตานั้น บัดนี้ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับชายรูปร่างสันทัดคนหนึ่ง
ภาพๆ นั้นทำให้เจ้าแมลงปอเกือบจะบินตกลงมาจากอากาศเลยทีเดียว
ชาวบ้านต่างกล่าวขานถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทำให้ได้พบกับแพทย์หนุ่มที่น่ารัก และ ใจดี คนนั้น
และยังกล่าวถึงความรักของคนทั้งคู่ที่เหมือนถูกกำหนดมาอย่างไรอย่างนั้น
แน่นอนพวกเขายังคงพูดถึงหญิงสาวที่สดใสร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก
เจ้าแมลงปอรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก

หลังจากนั้นไม่กี่วัน
แมลงปอเห็นแพทย์หนุ่มผู้นั้นพาคนรักของตนไปชายทะเลเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น
พลบค่ำก็อยู่(ที่)ชายหาดเพื่อดูพระอาทิตย์ตก

แต่สำหรับเขาแล้ว
นอกจากบินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาวแล้ว เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
หน้าร้อนของปีนี้ช่างยาวนานนัก
เจ้าแมลงปอบินต่ำลงๆ ทุกวันด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด
เขาไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอที่จะบินเข้าใกล้ หญิงอันเป็นที่รัก
ท่าทางการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของคนทั้งคู่
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งคู่ ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งนัก

ย่างเข้าฤดูร้อนของปีที่ 3
เจ้าแมลงปอไม่ค่อยไปเฝ้าดูคนรักของเขาแล้ว
บ่าของเธอบัดนี้ถูกโอบกอดด้วยมือของแพทย์หนุ่ม
ใบหน้าถูกประทับจูบอย่างเบาๆ จากเขาผู้นั้น
ดูท่าทางแล้วไม่มีทางเลยที่หญิงสาวจะมีเวลาที่จะไปคิดถึงแมลงปอที่เจ็บปวดตัวหนึ่ง
ยิ่งไม่มีทางที่จะไปคิดถึงอดีตสิ่งที่ผ่านไป
วันครบรอบปีที่ 3 ที่พระผู้เป็นกำหนดไว้ใกล้มาถึงแล้ว
คนรักของเจ้าแมลงปอกับนายแพทย์หนุ่มได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นในวันสุดท้ายนั้นเอง
เจ้าแมลงปอค่อยๆ บินเข้าไปในโบสถ์ และไปเกาะที่บ่าของพระผู้เป็นเจ้า
เขาได้ยินเสียงของคนรักที่ดังมาจากข้างล่างตอบรับคำสาบานของพระผู้เป็นเจ้าว่า
“ฉันยอมรับ”
เขาเห็นแพทย์หนุ่มคนนั้นสวมแหวนให้คนรักของเขา
ตามด้วยจุมพิตที่แสนหวานของคนทั้งคู่
เจ้าแมลงปอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมา
พระผู้เป็นเจ้าถามแมลงปอว่า “เจ้ารู้สึกเสียใจไหม”
เจ้าแมลงปอเช็ดน้ำตาแล้วตอบว่า “เปล่า”
พระผู้เป็นเจ้าถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า
“งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ได้กลับเป็นเจ้าคนเดิมแล้ว”
เจ้าแมลงปอส่ายหน้าอย่างช้าๆ ก่อนตอบว่า
“ขอผมเป็นแมลงปออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเถอะครับ”

บางบุพเพ(ชะตา) ถูกกำหนดมาเพื่อที่ต้องสูญเสียไป
บางบุพเพ ตอนจบไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
รักคน ๆ หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องได้รับรักตอบ แต่
เมื่อได้รับรักจากใครคนหนึ่งเราต้องดูแลรักษามันไว้อย่างดี

บนบ่าของคุณมีแมลงปอไหม……..