ฤดู(ของ)ฝน

ฤดูไหน…ฤดูไหน…ก็ฤดู(ของ)ฝน

สัญญานะ … บล็อค June 20, 2009

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 6:47 am

นานมากที่ไม่ได้อัพบล็อค

คิดจะดองไหม

แหม๋ๆๆ

นานขนาดนี้ เน่าแล้วบ้านฉันไม่ใช่แค่ดอง

 

มีโปรแกรมจะทำอะไรเล่นๆอยู่ สอง-สามอย่าง

ยิ่งแก่ ยิ่งหมดไฟ

แต่ก็ยังอยากทำ พอเข้ามาบล็อคที่ไรก็ฮึดขึ้นมาทุกที

แค่อยากแต่ไม่ลงมือทำสักที เห็นท่าว่าจะไม่เสร็จ

ทำไงๆๆๆๆๆ

ก็ทำสิจ๊ะ

จะทำแล้วนะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากบอกใครสักคน ใครดีอ่ะ

บอกบล็อคแล้วกัน

เอาเป็นว่าสัญญากันแล้วนะ

ถ้าเสร็จ จะให้บล็อคเห็นเป็นคนแรก

ดีจัง สัญญากับใครสักคน ค่อยมีแรงใจหน่อย

ฮิ้วๆๆๆๆ ลั้นลา

เสร็จเมื่อไหร่ เจอกันนะบล็อคจ๋าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รอนะ

 

คิดถึงเธอเสมอใจ(ลงท้ายโคตรเน่าเลยยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)

 

บทสุดท้าย…แด่น้องสาวที่คิดถึง October 3, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 6:43 am

จำได้ว่าวันแรกที่พี่สาวพานิ้งมาที่บ้าน ฉันเพิ่งอยู่ม. 1 นิ้งเพิ่ง 3 เดือน

ฉันนั่งเล่นอยูที่ชานบ้านกับนิดหน่อยน้องสาวฝาแฝดบ้านตรงข้าม

พอเราสามคนเห็นนิ้งก็ชอบกันใหญ่ เพราะความที่เค้าตัวขาว ขนปุยทั้งตัว

มีแค่ตรงตาที่เป็นสีน้ำตาลคล้ายกับใส่แว่นตาตลอดเวลา

นิ้งเป็นสุนัขพันธุ์ทางเพศเมีย (ผสมระหว่างเทอร์เรียกับสปิต)

แต่ที่บ้านทั้งแม่และคุณป้า ก็ดุพี่สาวใหญ่ว่าไม่ให้เลี้ยงสุนัข

เพราะที่บ้านเลี้ยงไว้หลายตัวแล้ว

คืนแรกของนิ้งที่บ้านเรา

แม่เอากล่องกระดาษมา ไล่ให้นิ้งลงไปอยูในลังนิ้งก็กลัวไม่ยอมลง

แม่แกล้งเอาตระกล้าผ้ามาครอบนิ้งไว้ มันก็นิ่งสักพักก็หาทางออกมาจนได้

นิ้งเป็นหมาซื่อสัตย์และฉลาดมาก จะยกมือไหว้เมื่อเค้าต้องการจะขออะไร

ทั้งขอของกินและเวลาที่เค้าต้องการออกจากบ้านไปเข้าห้องน้ำ

นิ้งคอยเฝ้าบ้านทุกวัน และจะขู่เวลาที่มีคนมาหยิบของที่บ้าน เพราะเค้าหวงของ

ครอบครัวเรารักนิ้งมาก

อ่อเกือบลืมที่เค้าได้ชื่อว่านุ้งนิ้ง เพราะว่าตอนนั้น นิ้ง กุลสตรี ดารากำลังดัง

ซึ่งเป็นคนที่บุคลิกเรียบร้อย

ฉันคิดว่าพ่อคงอยากให้นุ้งนิ้งเรียบร้อยแบบนั้น

เลยตั้งชื่อว่านุ้งนิ้ง(กุลสตรี บุนนาค) เป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้านเรา

เราอยู่บ้านที่โบ๊เบ๊ได้ 6 ปีนับจากวันที่นิ้งมา

หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่ร่มเกล้านิ้งไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน

เพราะบ้านใหม่ไม่มีที่ให้นิ้งวิ่งเล่นเหมือนเดิม

ไม่รู้ว่านิ้งจะเข้าใจเหตุผลที่ครอบครัวเราต้องย้ายบ้านรึเปล่า

แต่ฉันรู้ว่านิ้งคงชอบบ้านเก่ามากกว่า เพราะฉันเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

หลังจากย้ายบ้านมาร่มเกล้าอีกไม่ถึงปี

ฉันก็ไปอยู่หอที่รังสิต เพราะสอบเอ็นทรานติดที่นั่น

พ่อต้องไปอยู่ที่อื่น พี่สาวไปอยู่กับเพื่อน

บ้านเราแยกกันคนละทาง

นิ้งเลยต้องอยู่กับแม่ เพราะฉันเอานิ้งมาเลี้ยงที่หอไม่ได้

ฉันรู้ว่านิ้งเหงา

ไม่นานนักพี่สาวเอาหมาตัวใหม่มาอีกตัว พันธุ์ ดาเมนเชี่ยน เพศผู้

ชื่อเนื้อสัน

แรก ๆ นุ้งนิ้งไม่ชอบ คงเพราะมันอิจฉากัน

แล้วเนื้อสันก็ชอบแกล้ง

เวลาที่นิ้งนอนอยู่ที่พื้น มันชอบขึ้นไปบนเตียงนอนแล้วกระโดพุ่งลงมันทับนุ้งนิ้ง

ตอนนั้นมันทำได้เพราเนื้อสันยังเด็ก

ต่อมาไม่นานเนื้อสันป่วย และชักบ่อย

หมอบอกว่าเนื้อสันเป็นคล้ายกับเวลาที่เด็กเป็นออทิสติก

มันเริ่มซึมและเก็บตัว

นิ้งมักจะอยู่ใกล้ๆ เนื้อสันตลอด

ฉันรู้ว่านิ้งเป็นห่วงน้อง เพราะน้องจะชักบ่อย ๆ

และเค้าก็อยู่บ้านกันแค่ 2 ตัว

แม่ไปขายของทุกวัน มันคงเหงากัน

อีก 3 ปีถัดมาสันก็ตาย

แม่เล่าให้ฟังว่าแม่กลับมาถึงบ้านเนื้อสันนอนหมดแรงอยู่แต่ยังไม่ตาย

แม่คิดว่ามันคงชักเหมือนทุกวัน

เลยเช็ดตัวทำความสะอาด เลยถือโอกาสตัดเล็บให้

เพราะเวลาปกติมันดิ้นไม่ยอมให้ตัดง่ายๆ

แต่แม่ก็ตกใจเพราะไม่กี่นาทีต่อมาเนื้อสันก็ไม่หายใจ

เนื้อสันตายแล้วลูกแม่โทรมาบอกฉันอย่างนั้น

ฉันได้แต่เสียใจ เพราะฉันไม่สามารถช่วยมันได้เลย

แม่เอาเนื้อสันไปฝังไว้ริมคลอง

ฉันรีบกลับบ้านแต่ไม่ทันได้เห็นมันอีกสักครั้ง

เช้าวันรุ่งขึ้นนิ้งหายไปจากบ้าน

แม่โทรบอกฉันและพี่สาว เพราะกลัวมันหายไปแล้วหาไม่เจอ

เราหานิ้งจนค่ำ เลยลองถามคนขับรถรับจ้างแถวบ้าน

เค้าว่าเห็นหมาตัวขาวนั่งอยู่ริมคลอง

แม่รีบตามไปดู

ภาพที่เห็นมันน่าเศร้า แม่ได้แต่ร้องไห้

นิ้งกำลังพยายามขุดดินตรงที่เป็นหลุมฝั่งศพของเนื้อสัน

มันคงไม่เข้าใจว่าเราเอาน้องไปฝั่งไว้ทำไม

นิ้งรู้ว่าน้องอยู่ใต้ดินตรงนั้นมันเลยพยายามเอาน้องออกมา

เราต้องเอาตัวนิ้งกลับมาที่บ้าน

ทั้งตัวเลอะเทอะไปด้วยดินจากที่ตัวขาว ขนปุย

ตัวดำเลอะดินจนไม่เหลือคราบเลย

นิ้งยังไปที่นั้นอีกหลายวัน

เค้าคงอยากไปรับน้องกลับบ้าน

เวลาผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว

ตอนนี้พี่สาวเอาหมาตัวใหม่มาอีกแล้ว

พันธุ์พุดเดิ้ล สีทอง เพศเมีย ชื่อหมูหยอง

แต่ฉันเรียกว่าหยองแหยง

เพราะมันซนและชอบกระโดด หยองแหยงไม่อยู่นิ่ง

คราวนี้นิ้งไม่สนใจหมูหยองเลย

ฉันเดาว่ามันคนแก่และเหนื่อยกับการที่ต้องพบ เจอ รัก ผูกพันธ์

และสุดท้ายต้องจบด้วยการจากลา

ตอนนี้นิ้งอายุ 10 ปีแล้ว

กลายเป็นคุณยายนิ้ง

เวลาเดินก็เหนื่อยง่าย ไม่มีแรงเล่นกันเหมือนแต่ก่อน

และฉันเองก็อยู่หอไม่ค่อยได้กับไปอยู่ด้วยกันกับนิ้ง

ฉันอยากให้นิ้งแข็งแรง

อยากมีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง

จะได้รับนิ้งมาอยู่ด้วยกัน

คิดถึงจัง……..นุ้งนิ้ง(น้องสาวของฉัน)

ป.ล. เขียนเมื่อ ตุลาคม 2549 ตอนนี้น้องสาวยังคงแข็งแรงดี ผ่าตัดเนื้องอกไปหนึ่งรอบแต่ยังคงดี้ด้า หางกระดุ๊กกระดิ๊กเวลาเจอหน้าฉันเช่นเคย

 

บทสุดท้าย…แด่น้องสาวที่คิดถึง

คืนวันที่ 1 ตุลาคม 2551 (ตีหนึง)

เสียโทรศัพท์ฉันดังขึ้น

“นิ้งตายแล้วลูก” เสียงแม่สั่นเครือ ฟังแทบไม่เป็นคำ ได้ยินแต่เสียงร้องไห้

วันนั้นฉันไปนอนเล่นห้องเพื่อนที่อนุเสาวรีย์ หวังว่าการไปจะช่วยทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นสงบลง

แต่ไม่เลย

สิ้นเสียงโทรศัพท์ ฉันร้องไห้ หวังให้สิ่งที่ได้ยิน หายวับไป เป็นเพียงแค่ฝัน

 

ครั้งล่าสุดคือ สัปดาห์ก่อน ที่ฉันไปพบแม่ที่บ้าน ฉันเจอนิ้ง

น้องเริ่มป่วยมีอาการไอ เพราะนิ้งชอบไปนอนนอกบ้านเวลาฝนตก

แม่ไม่อยู่ กว่าจะกลับก็ค่ำ นิ้งเปียกแบบนั้นอยู่บ่อยๆ ช่วงที่ฝนตก

ก่อนจากกันครั้งนั้น ฉันล็อคกุญแจหน้ารั้วบ้านก่อนที่จะพาแม่ไปโรงพยาบาล

นิ้งมองหน้าฉันจนสุดสายตา ถ้าน้องพูดได้ น้องคงอยากบอกว่าอย่าทิ้งเค้าไว้อีกนานนัก

 

สัญญาของเรา ฉันจะรีบซื้อบ้าน แล้วรับนิ้งไปอยู่ด้วยเหมือนเมื่อก่อน

เราวิ่งเล่นและมีความสุข

ตอนนี้ฉันซื้อแล้ว เป็นแค่แฟลตเล็กๆ เอกสารยื่นไปเรียบร้อย

ฉันบอกพ่อ แม่ และทุกคนว่า อีกแค่ 3 เดือนฉันจะย้ายไปอยู่ที่นั่น

มันไกลจากที่ทำงาน แต่ยังพอมีรถตู้อยู่หลายสาย

และที่สำคัญ

“ฉันจะมารับนิ้งไปแล้ว”

“อีกแค่สามเดอนเท่านั้น”

 

น้องรอฉันมานานมาก

นานเกินไป

และฉันช้าเกินไป

 

ฉันอยากเป็นเหมือนตัวละครในนิทาน ฉันอยากขอพรจากนางฟ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขอให้ความดีทั้งหมดที่ฉันทำ ส่งผลให้พรฉันเป็นจริง

ขอให้คำสัญญาขอเราเป็นจริง

ของให้นิ้งยังอยู่กับฉัน เหมือนที่เราฝันเอาไว้

แต่ความจริง ฉันไม่ได้อยู่ในนิทาน

ฉันได้แต่ร้องไห้ ลูบแก้มนุ่มๆของน้องครั้งสุดท้าย

น้องนอนหลับอยู่ในห่อผ้าสีฟ้า

ฉันมองหน้าน้อง แววตาที่เคยรอคอยฉันเสมอ

มองครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างน้องจะถูกฝังไว้ใต้พื้นที่โดดดี่ยว

 

แม่เล่าว่าคืนนั้นน้องป่วยหนัก

แม่เอายาให้น้องกิน ทุกครั้งน้องจะกินยากมาก

แต่ครั้งนี้น้องยอมกินยาแต่โดยดี เหมือนรู้ว่าเค้าป่วย

และเค้าต้องการจะหายดี

หลังจากกินยาเข้าไปได้ไม่ถึงสิบนาที

แม่อาบน้ำเสร็จออกมา

ร่างน้องนอนนิ่งไม่ไหวติง

มันจบแล้ว

สัญญาของเรา น้องพยายามรักษามันแล้ว

แต่ฉันทำมันช้าเกินไป

 

ฉันเดินออกจากบ้านแม่ด้วยน้ำตานองหน้า ฉันจะทำยังไงต่อ

บ้านใหม่ ฉันไม่อยากไปอยู่แล้ว

บ้านที่ฉันตั้งใจจะอยู่กับน้อง ฉันจะอุ้มน้องลงมาเดินเล่นตอนค่ำที่กลับจากที่ทำงาน

มันอาจไกล แต่เราก็ได้มีความสุขด้วยกัน

ทั้งหมดไม่มีทางเป็นจริงได้

น้องรอฉันมานานเกินไป

 

เย็นนั้นฝนตกหนัก เสียงฝนฟังดูคร่ำครวญ เหมือนเสียคนกรีดร้องอย่างหนัก

ฉันได้แต่ร้องไห้ น้องคงหนาวอยู่ใต้พื้นดินที่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง

ฉันทำอะไรไม่ได้เลย

ฉันยื้อชีวิตน้องไม่ได้

ฉันเสียใจที่รักษาสัญญาได้ช้าเกินไป

 

คิดถึงเหลือเกินน้องสาวของฉัน

 

เพลงประจำ Canteen May 16, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 7:50 am

กรุณาร้องตามทำนองเพลงรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงงเพื่อความ เอร็ดอร่อย
> > > >>
ในท่วงทำนอง
> > > >>
> > > >>
เพลงประจำ Canteen: เจ๊ไม่ยอมเปลี่ยนแกง
> > > >>
> > > >>
เจ๊ไม่ยอมเปลี่ยนแกง
> > > >>
> > > >>
น้องยังมีป่อง ท้องยังมีวันแท้ง
> > > >>
ตลาดยังมีข้าวแกง แต่พะแนงจานนี้ไม่ค่อยดี
> > > >>
ถาดนี้ก็กลิ่นเหม็นหึ่ง ถาดนั้นก็ดูจะไม่ล้าง
> > > >>
แต่หากจะให้ทิ้งไป จะให้ไปทำใหม่นั้นไม่มีทาง
> > > >>
> > > >>
เฝ้าเช็คดูถาดแกง ในทุกๆวัน มันวนๆมาเหมือนเดิม
> > > >>
ไก่กระเทียม ก็คุ้นว่าไม่ได้ทำใหม่
> > > >>
แต่ทำไมไม่ยอมทิ้งมันไป วนเอาแกงมาขายเวียน
> > > >>
แช่ตู้เย็นเสร็จก็เอามาอุ่น
> > > >>
กี่วันผ่านไป ยังไง๊ เจ๊ยังทำเหมือนเดิม
> > > >>
เจ๊ ไม่ยอมเปลี่ยนแกง ฮือๆ
> > > >>
> > > >>
เขมรยังมีเปลี่ยน พวกเหงียนยังมีหยุดรบ
> > > >>
พม่าก็เลิกแทงกบ แต่หากจะจบแกงนี้ไม่มีทาง
> > > >>
พะโล้ก็ใกล้จะบูด แกงส้มก็เริ่มจะเหม็น
> > > >>
ผัดผักก็ดูชืดเย็น ใครกินคงได้ไปเห็นยมบาล
> > > >>
> > > >>
เฝ้าเช็คดูถาดแกง ในทุกๆวัน มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม
> > > >>
บอกตัวเอง ลืมเจ๊แล้วเดินไปร้านอื่น
> > > >>
แต่ทุกร้านก็ทำเหมือนๆกัน เจอแต่แกงที่ค้างคืน
> > > >>
แช่ตู้เย็นเสร็จก็เอามาอุ่น
> > > >>
กี่วันผ่านไป ยังไง๊ ข้าวแกงก็ค้างคืน
> > > >>
เจ๊ ไม่ยอมเปลี่ยนแกง ฮือๆ
> > > >>
> > > >>
ขายมันอยู่วันนี้ วันพรุ่งนี้ มะรืนนี้
> > > >>
ไม่รู้จะกินได้ไหม ขี้แตกไหม จะตายไหม
> > > >>
เจ๊ไม่ยอมเปลี่ยนแกง
> > > >
> > > >

 

อยากเชียร์แมนยู May 13, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 9:59 am

http://www.2ked.com/movie/?v=MDAwMDAwNTI5

 

เพลงอยากเชียร์แมนยู ของพี่เอกวิชัย ลองดูกันน่ารักดี

 

คืนฝัน…มหัศจรรย์…สังขยา April 29, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 9:25 am

คุณเคยมีความฝันไหม?

ฉันเคย…

ความฝันของฉันมีรสหวานๆ

แต่ความฝันของฉันมันทำให้เหน็บหนาว

และความฝันของฉันก็รู้สึกเศร้า

เพราะความฝันของฉันเกิดขึ้นท่ามกลางสายฝน

แล้วความฝันของฉันวูบหายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

หลายต่อหลายครั้งที่เราหลับฝันดี แล้วพอตื่น…ความฝันนั้นไปก็หายวับไป

ฉันพยายามคิดถึงคืนฝันเหล่านั้น ต่อให้ทบทวนยังไง ภาพมันก็ดูลางเลือน

และครั้งนี้ฉันตื่นขึ้นมาระหว่างความฝัน แม้มันยังไม่ถึงตอนจบ

แต่มันก็ทำให้ฉันยังจำเรื่องราวได้อย่างแจ่มชัด

 

ถึง(คุณ)ในฝันของฉัน
 
     (ในฝัน)วันนั้นพระอาทิตย์เป็นสีเหลืองทองและฝนเริ่มตกปอยๆ เรานัดกันหลังเสร็จงาน คุณรอฉันอยู่หน้าโรงพยาบาล ฉันนั่งรถเมล์มาเพราะคิดว่าคุณยังมาไม่ถึง ฉันแวะซื้อข้าวเหนียวสังขยาที่ตลาดนัดหน้าโรงพยาบาล เพราะในฝันคุณบ่นว่าอยากกิน พ่อค้าสังขยาตักให้ผิด มันเป็นสังขยาสีส้ม ฉันเลยบอกว่าแกตักผิด ฉันไม่ได้สั่งอันนี้ พ่อค้าว่ามันก็เหมือนกันแหละ จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหมือนกันแหละ ฉันงงกับคำพูดของแกแต่ก็ไม่ได้สนใจ แล้วฉันเลยบอกแกว่างั้นเอาสีปกติอีก2ห่อ และฉันก็ได้สังขยาสีปกติสมใจ เม็ดฝนหล่นลงถูกผมของฉันมากขึ้น…มากขึ้น ฉันเริ่มเร่งผีเท้าเพื่อไปหาคุณ
     แต่พอมาถึงคุณโกรธเพราะยืนรอนานแล้ว ฝนก็ตก คุณก็เหนื่อย เปียกก็เปียก แถมคุณเดินแปลกๆเพราะจ็บขา(ไม่รู้ไปทำไรมา)
ฉันเลยรู้สึกเสียใจ ได้แต่เดินแกว่งถุงสังขยาตามหลังคุณมาโดยไม่ได้สนใจถุงนั้นอีก
     แล้วฉันก็กลับมาที่บ้าน วางถุงไว้ปลายเตียงนอน แล้วในฝันฉันก็หลับ…และก็ฝัน(เป็นเหมือนฝันซ้อนฝัน) ฝันว่ามีเด็กเล็กๆ เด็กที่เพิ่งเกิดบอกว่าเค้าหนาว ฉันลืมเค้าไว้ เค้าอยู่ปลายเตียง ในฝันฉันรู้สึกหนาวมากเหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางทะเลน้ำแข็ง แล้วก็ตกใจตื่นรีบลุกขึ้นไปดูที่ปลายเตียง มีเด็กผู้หญิงเพิ่งเกิดถูกห่อไว้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อยู่ในถุง ถุงที่ฉันเข้าใจว่าเป็นสังขยา ถุงที่ฉันไม่ได้สนใจและลืมเลือนมันไป ตัวเค้าทั้งสั่น เหน็บหนาว ผิวซีดและขาวมากๆ ตากลมดูไร้แววของสิ่งมีชีวิต ฉันตกใจรีบเอาเค้ามากอดไว้ ฉันกลัวว่าเค้าจะตาย แล้วตัวเค้าก็อุ่นขึ้น..อุ่นขึ้น ตัวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ตากลมๆ ใสๆคู่นั้นมีน้ำตาคลอๆและเค้าก็มองมาที่ฉัน ในตอนนั้นน้ำตาฉันก็ไหลไม่หยุด ที่แก้มเค้ามีเม็ดตุ่มที่เหมือนโดนยุ่งกัดอยู่ พ่อฉันมาเห็นเลยเอายาหม่องมาทา ฉันเลยดุพ่อว่าเค้ายังเด็ก ทาไม่ได้ เค้าแสบตา พ่อพูดว่า แล้วเค้าเพิ่งเกิดทำไมฉันถึงลืมเค้าไว้ตรงนั้น
     ในฝันฉันได้แต่นั่งร้องไห้บอกพ่อว่า

     ฉันไม่ได้ตั้งใจ

     ฉันไม่อยากลืมเค้าไว้ตรงนั้น

     ฉันไม่อยากให้เค้าหนาว

     ฉันไม่ยากให้เค้าโดนยุ่งกัด
 
     แล้วฉันก็ตื่น ตื่นมาตั้งแต่เช้า  

     ฉันพยายามจดจำความฝันครั้งนี้ไว้ แล้วเริ่มเขียนจดหมายฉบับนี้ ถึงคุณคนในฝันของฉันเพราะฉันไม่อยากให้ฝันครั้งนี้หายไป

 

                                                                                                  คิดถึงคุณในฝันของฉัน

                                                                                                              ฉัน

 

เขาหาว่าหนู…จรจัด April 28, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 2:00 am

ผ่านไปเรียบร้อยแล้วกับงานอินดี้ ชุ่มฉ่ำๆทั้งตัวทั้งใจ

หนังสือทำมือ

“เขาหาว่าหนู…จรจัด”

รวมเรื่องเล่าของเหล่าหมา-แมว

ขายหมดแว้ววววววว

พิมพ์มา 20 เล่มเอง แต่ก็ขายหมดเกลี้ยง

ขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุนนะคะ

รายได้จะบริจาคให้บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

ขอบคุณจากใจแทนเหล่ามะหมาและน้องแมวเหมียวด้วยนะคะ

 

 

thank you April 21, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 10:32 am

วันที่21เมษา เวี่ยนมาบรรจบ ทำให้ปีนี้ข้าน้อยมีอายุครบ 21 ปีพอดี555+

ขอบคุณ คุณแม่อ้วนๆกลมๆของเราที่ทำให้วันที่21ที่ธรรมดาเป็นวันที่แสนพิเศษ แถมpocket money อีกต่างหาก ทำให้ปีนี้ลูกสาวรอดตายไปจนถึงสิ้นเดือนแบบสบายๆ รักแม่นะจ๊ะ จุ๊บๆ

ขอบคุณ คุณพ่อพุงโตๆของเรา ที่วงกลมปฎิทินวันที่21ไว้ตั้งแต่ต้นปี คิดถึงจริ๊งจริง “เบริดเดย์นะลูก” เล่นเอาซึ้งจนน้ำตาจะไหล

ขอบคุณพี่สาว ที่สาวน้อยกว่าน้อง555+ สำหรับชอคโกแลตแสนอร่อย

ขอบคุณสีผสมของข้าน้อยที่นับเค้าดาวท์รอสุขสันต์วันเกิดให้ จุ๊บๆ

ขอบคุณอิ๋ง อั๋น หญิง ปลา รี่ สำหรับเอ็มเค+พวงกุญแจน่ารักๆ อวยกันตั้งแต่วันที่7 แถมวันนี้ยังส่งข้อความกันมาเพียบ แต๊งค์หลายๆ

ขอบคุณ คุณฝันฯ อุณหภูมิสีเทาของพี่เดินทางมาถึงตั้งแต่วันที่19

ขอบคุณหม่อมเหยินสำหรับข้อความอวยตอน24.24นาที

ขอบคุณต้อมแต้มที่โทรมาอวยกันตอนเช้าๆ 55 ฉันหุไม่ดีเลยรับช้า เพ่ขับเรืออยู่ไอ้น้อง

ขอบคุณอิ๋งกี้อีกที ที่ส่งข้อความมาปลุกฉันตอนเช้า แต่แกน่าจะเร็วอีกนิดเพราะวันนี้ฉันมาช้าไป4นาที แถมตอนบ่ายโทรมาอวยกันอีก แถมไปกินติมเย็นนี้อีก ครบสามมื้อเลยเพื่อน

ขอบคุณพี่แขกบอกว่าน้องสวยคม

ขอบคุณพี่จุ๋มจ๋า อวยกันตั้งแต่20

ขอบคุณพี่เมกิ อวยแบบเพราะๆ

ขอบคุณพี่เอี้ยงที่เดินนำทางอายุไปก่อน555555555555555555+

ชอบคุณพี่อิ๊วที่ให้สวยแบบครบ32

ขอบคุณโย๊ะ ได้เพื่อนร่วมอายุแระ

ขอบคุณน้องสิ ที่ให้พี่สวยแบบเข้มๆ (แต่ผิวไม่เอานะ พี่ขอร้องๆๆๆ)

ขอบคุณเพื่อนเป้ เอ้าเพื่อนไม่หมดไม่เลิกไม่หมดไม่เลิก555+

ขอบคุณตุ๊กติ๊ก เล่นอวยแบบแนบชิดติดหูกันขนาดนั้น ถ้าฉันเป็นชายฉันรักแกตายเลย เอิ๊กๆ

ขอบคุณพี่หนิง ข้อความเบริดเดย์เพ่ เด่นมากๆมองกันทั้งออฟฟิตเลย (น่ารักๆชอบๆ)

ขอบคุณพี่แดง สำหรับฝรั่ง (ไมเพ่ต้องขอดูบัตรประชาชนน้องด้วยอ่ะ หนูคนไทยนะ แง้…)

ขอบคุณพี่เก่ง เล่นส่งเมล์บอกไปทั้งบริษัท

ขอบคุณพี่เกรทสำหรับข้อความเพราะๆ

ขอบคุณนู๋บี มันโทรมาอวยหรือโทรมาเมาท์ เอาซะแบตเกือบหมด

ขอบคุณนู๋เอ๋ ที่พยายามนัดกันเสมอๆ อยากไปกินเค้กร้านเดิมอ่ะเพื่อน จัดวันมาจิ

ขอบคุณคุณลุงpk ที่โทรมาอวย แหม๋จำได้ด้วย น้องอำเล่น จำถูกวันแล้วก๊ะ

ขอบคุณทุกคนที่คิดถึงกันดีใจจริ๊งๆ

 

คุณฝันฯ เม้นเร็วมากๆ555+

คือแบบว่ายังไม่จบเอิ๊กๆ

ขอบคุณพี่จ๊ะเอ๋ ส่งข้อความน่ารักๆมาให้

ขอบคุณลุงpkอีกทีส่งข้อความมาอีกหน

ขอบคุณเอนก 555+ตามหาเบอร์ฉันจนได้แท๊งค์หลายๆ

ขอบคุณชายกลาง สำหรับข้อความ

ขอบคุณน้องบีม สุขเช่นกันจ๊ะน้อง

สุดท้าย……..สีผสมของฉันขอบคุณสำหรับขนมเค้ก ^^ 

 

 

 

จิ๊ดริดกับมะตูม April 9, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 5:58 am

เฮ้อ…

เปงไรมะตูม

โทรไม่ติดเลยอ่ะจิ๊ดริด

ธุระด่วนหรอ

ไม่หรอก แค่มันแปลกไป คุยกันทุกวัน เจอกันบ่อยๆ แล้วมันเปลี่ยนแปลงมันรู้สึก…

รู้สึกไง

บอกไม่ถูก แค่มันไม่เหมือนเดิม จะเหงา จะเศร้า จะอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่ารอ เลยโทรบ่อยๆเผื่อติด แล้วก็มองๆเผื่อมีสายเข้า

มะตูม นี่จดหมาย

ให้เราทำไม

ให้ดู น่ารักดี เราเจอมาจากห้องเก็บของ สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์

อืม…

ไม่โทรมาแต่คงคิดถึงแหละ เค้าอาจมีธุระ ไม่มีสัญญาณ หรือว่าลืมเอาที่ชาจแบตไป

ห่างๆกันบ้างจะได้คิดถึงกัน เหมือนที่โบราณว่าไว้ มันคงจะจริงเนอะจิ๊ดริด

อืม…จริง…

แล้วนั้นจิ๊ดริดทำไร จะจูงเจ้าตูบไปไหน

เอาไปไว้บ้านป้า ห่างๆ กันบ้าง 

 

เพื่อนแท้ April 8, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 5:53 am
Tags:

คุณคิดว่าชีวิตนี้เราจะมีเพื่อนแท้ได้สักกี่คน ?

               

               ที่เค้าว่ามีเพื่อนเป็นสิบสู่มีเพื่อนแท้คนเดียวไม่ได้ โอ้โฮ…แล้วเพื่อนแท้ดีขนาดไหนน๊า….

 

เพื่อนแท้รักเราโดยไม่สนใจหน้าตา สวย-หล่อ ฐานะรวย-จน

 

เพื่อนแท้มักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกับเราเสมอ

 

เพื่อนแท้จะไม่ทอดทิ้งกัน แม้ยามคับขัน(จนตรอก)

 

เพื่อนแท้จะอยู่เคียงข้างเวลาที่เศร้า ทำให้เราไม่โดดเดี่ยว(แม้บางครั้งจะไม่พูดอะไรเลยก็ตาม)

 

 

                ฉันเป็นคนนึงที่มีเพื่อนมาก เพื่อนเยอะ ทั้งเพื่อนแถวบ้านเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มัธยม ประถม แถมเพื่อนอนุบาลก็ยังคุยกันอยู่เนืองๆ นั่นเพราะนิสัยช่างเจรจา ทำให้เวลาเดินทางไปไหนจะใกล้หรือไกล ฉันจึงมักได้เพื่อนใหม่อยู่เสมอ ทั้งคนแก่ วัยรุ่น คนหนุ่ม สาวๆ เด็กเล็ก รวมถึงน้องหมา เหมือนนุ้งนิ้งเพื่อนซี้ เพื่อนแท้ที่แสนดีของฉันตัวนี้…..

 

 

(จริงๆมีรูปประกอบด้วย แต่ไม่รู้เป็นไงเอาลงบล็อคไม่ได้ง่ะ ยังไงไปตามดุกันใน friend หนังสือทำมือเล่มใหม่ของชาวฟลาเนอร์นะจ๊ะ)

 

 

 

 

 

ชีวิตนี้มีความสุข April 7, 2008

Filed under: Uncategorized — therainyseason @ 5:35 am
Tags:

มีคำถามมาถามพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ

ใครว่างช่วยตอยหน่อยจิ

อะไรที่คิดว่าถ้าเราได้มี ได้เป็น ได้ทำ แล้วมันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตนี้มันสุขยิ่งนัก?